จองอย่างไรให้ได้ไปเที่ยว เกาะหลีเป๊ะ

โทรสอบถามทัวร์กันเข้ามาเยอะมากๆๆ  แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ไปเพราะที่พักเต็ม

ทางทัวร์ได้แจ้งราคาทัวร์สำหรับแพคเกจทัวร์ที่ใช้ห้องพักในแต่ละแบบไว้ในโปรแกรมทัวร์แล้ว นักท่องควรศึกษาราคาในแต่ละแบบว่าต้องการที่พักแบบไหน ชอบแบบไหนเน้นวิวสวย หรือเน้นประหยัด 

ปัญหาคือ ผู้จองยังไม่ทราบความต้องการของตนเองที่ชัดเจนว่าต้องการอะไร เช่น ต้องการห้องพักแบบไหน  หรือรีสอร์ทอะไร

ทัวร์ของเราใช้ห้องพักที่เมาเท่นรีสอร์ทเป็นหลัก รองลงมาก็คือวารินทร์บีชรีสอร์ท ถ้าสองที่นี้ไม่ว่างค่อยดูรีสอร์ทอื่นต่อไป

ถามว่าที่ไหนดี ก็ดีด้วยกันทั้งสองที่ ใช้ทั้งสองที่ก็มักจะโดนบ่นทั้งสองที่ ใช้ที่วารินทร์ก็โดนบ่นว่าวิวไม่สวย ไม่มีจุดชมวิว เมื่อใช้ที่เมาเท่นก็โดนบ่นว่าขึ้นลงลำบากเพราะอยู่บนเขาขึ้นลงเหนื่อย ถามว่าแล้วทำไมถึงเลือกเมาเท่น ก็ได้คำตอบว่าวิวสวยอยากชมวิว เจอแบบนี้ไกด์ก็เมาคลื่นล่ะครับ

ดังนั้นชอบแบบไหนเลือกมาก่อนเลย แต่ถ้าไม่รู้ข้อมูลไม่เป็นไร เพียงแค่บอกเราว่า...ชอบแบบไหน  แต่แบบที่ว่าขอที่พักติดหาดวิวสวยๆ แบบนี้ไกด์ก็เมาคลื่นอีกล่ะครับ ติดหาดวิวสวย วิวสวยต้องเมาเท่นเพราะอยู่บนหน้าผาวิวสวย แต่ต้องเดินขึ้นลงบันไดไปยังหาด  ส่วนวารินทร์อยู่ติดหาดอยู่บนพื้นราบไม่มีวิวให้ชมแต่สะดวกสบายวิ่งลงหาดได้เลย 

ในช่วงฤดูท่องเที่ยวรีสอร์ทบนเกาะหลีเป๊ะจะยุ่งกันมาก การโทรเชคห้องพักไม่ค่อยสะดวกนักและยังมีปัญหาเรื่องโทรศัพท์ล่มบ่อยๆ

เกาะหลีเป๊ะมีห้องพักน้อย ยิ่งมาในช่วงหลังๆ นี้คนจีนนิยมมาเที่ยวเมืองไทยตามกระแสภาพยนต์ไปเที่ยวเกาะหลีเป๊ะกันมาก จีนมาเลย์ก็มาเที่ยวหลีเป๊ะกันมาก ถ้าจองทัวร์แบบใกล้ๆ วันเดินทางโอกาสเลือกรีสอร์ทตามใจที่ต้องการนั้นค่อนข้างยาก มีมากมายหลายคณะมากที่พร้อมจะจ่ายเงินพร้อมจะโอนเงินค่าทัวร์แต่ก็ไม่สามารถไปได้เพราะที่พักเต็ม  บริษัททัวร์ไม่ได้สำรองห้องไว้สำหรับใช้ในทริปเว้นเสียแต่ว่าเป็นช่วงหยุดเทศกาลหยุดยาวที่มั่นใจว่าขายได้แน่ๆ เท่านั้น วันหยุดสุดสัปดาห์ไม่มีการสำรองไว้รองรับทัวร์ ดังนั้นทุกครั้งที่มีการแจ้งความต้องการเข้ามาก็จะต้องเชคห้องพักทุกครั้งซึ่งส่วนใหญ่ก็จะมีปัญหาว่าห้องที่ต้องการเต็มโดยเฉพาะห้องที่ราคาไม่สูงจะเต็มก่อน บางครั้งเหลือห้องว่างแต่เป็นห้องที่นักท่องเที่ยวจ่ายไม่ไหว

จองยังไงให้ได้ไปทัวร์ เกาะหลีเป๊ะ

ห้องพักมีน้อย ก่อนจะสอบถามจองทัวร์ควรจะต้องรู้ความต้องการของตนเองก่อนว่า ต้องการห้องแบบไหน หรือ รีสอร์ทไหน  ไปเมื่อไร

เมื่อรู้แล้วว่าต้องการพักห้องแบบไหน ระบุเจาะจงรีสอร์ทหมั๊ยหรือว่ารีสอร์ทไหนก็ได้

เมื่อรู้แล้วว่าต้องการพักห้องแบบไหน ก็เปิดดูตารางราคาในโปรแกรมทัวร์ก่อนเลยว่า ถ้าพักห้องแบบนี้ รีสอร์ทนี้ ราคาท่านละเท่าไร

เมื่อเห็นราคาแล้วรู้สึกว่าคงไม่ไหว ก็ต้องดูห้องพักแบบที่ราคาถูกลงมา เมื่อดูแล้วก็ต้องพิจารณาว่า ราคาพอไหวหมั๊ย ถ้าไหวก็โทรมาจองกันเลย ทางทัวร์ก็จะเชคห้องพักให้ ถ้าว่างแจ้งกลับไปแล้วทางผู้จองก็ต้องตัดสินใจว่า มีแววว่าจะจองหรือไม่จอง ถ้ามีแนวโน้มจะจองก็ต้องแจ้งให้ชัดเจนเพื่อล๊อกห้องพักไว้ ทางทัวร์แจ้งว่าห้องว่างนั้นไม่ได้หมายความว่าทางทัวร์จะล๊อกห้องไว้เพราะทางรีสอร์ทไม่รับจองปากเปล่า จะจองก็ต้องส่งเอกสารไปจองไป ส่งไปบ่อยๆ แล้วยกเลิกบ่อยก็เสียเครดิต  ดังนั้นเมื่อถึงเวลาจะโอนเงินกันจริงก็ต้องเชคห้องใหม่ ปรากฏว่า ห้องไม่ว่างแล้ว

หรือบางครั้งนักท่องเที่ยวอยากไปมาก เมื่อวันที่แจ้งมาไม่ว่างก็ให้ดูวันถัดๆ ไป ว่าวันไหนว่าง ทางรีสอร์ทก็ต้องมีคำถามอีกว่า จะจองวันไหน พอเดาวันที่ไป ปรากฎว่าห้องว่าง แล้วแจ้งกลับนักท่องเที่ยว คำตอบที่ได้มาคือ ช่วงนั้นเราไม่ว่าง  มีคำถามต่ออีกว่า แล้วช่วงโน้นล่ะว่างหมั๊ย เชคกันไปเชคกันมาปรากฎว่าไม่ได้ไป

ความต้องการต้องชัดเจน กำหนดการณ์เดินทางต้องชัดเจน เมื่อแจ้งห้องว่างแล้วควรรีบจอง เชคไว้เฉยๆ ไม่มีประโยชน์เพราะถึงเวลาจะจองห้องก็ไม่ว่างซะแล้ว