สัตว์มีพิษ-สัตว์อันตรายในทะเล |
ไม่มีที่ใดในโลกนี้ปลอดภัย
แม้แต่ในทะเล
ใต้ทะเลมีสิ่งมีชีวิตที่สวยงามดึงดูดให้เราไปเยี่ยมชม
ส่วนหนึ่งของสิ่งมีชีวิตนั้นก็ไม่ปลอดภัยสำหรับมนุษย์หากว่าเราไปสัมผัสแตะต้องหรือเข้าใกล้ด้วยเจตนาหรือด้วยความบังเอิญก็ตาม
เราเป็นนักท่องเที่ยวจึงควรรู้ไว้ว่าสิ่งใดมีอันตรายเพื่อที่จะได้หลีกเลี่ยงหรือแก้สถานการณ์เมื่อมีปัญหา
|
แมงกะพรุน
ชื่อนี้ค่อนข้างจะคุ้นเคยสำหรับนักท่องเที่ยวเพราะหลายคนเคยมีประสบการณ์กับพิษของแมงกะพรุนมาบ้างแล้ว
แมงกะพรุนเป็นสิ่งมีชีวิตชนิดหนึ่งมีลักษณะตัวใสนิ่มคล้ายๆ
วุ้น บางชนิดมีสีขุ่น
แมงกะพรุนมีพิษทำให้คันปวดแสบปวดร้อน แต่บางชนิดก็ใส่เย็นตาโฟทานอร่อย
การป้องกัน เวลาเล่นน้ำให้สังเกตรอบๆ
ว่ามีแมงกะพรุนอยู่แถวนั้นหรือไม่
ถ้ามีก็ให้หลีกไปเล่นบริเวณอื่น
เวลาดำน้ำดูปะการังผิวน้ำให้คอยสังเกตดูด้วยว่ามีแมงกะพรุนลอยมาหาเราหรือไม่
ถ้ามีก็ให้หลบเสีย การดำน้ำลึกควรสังเกตและหลบเลี่ยง
อย่างตัวนี้ผมเจอที่หน้าเกาะค้างคาว
ว่ายวืบๆ
ผ่านไปไม่ไกลเท่าไรจึงถ่ายมาให้ชมกัน
การรักษา
อย่าเกาเพราะการเกาไม่ใช่การแก้ปัญหา
ยิ่งเกายิ่งยับเยิน
ใจเย็นๆ
ให้ใช้ใบผักบุ้งทะเลที่ขึ้นอยู่บริเวณชายหาดขยำจนของน้ำเขียวๆ
ในใบออกมาแล้วทาบริเวณที่โดนแมงกะพรุน
ทาทิ้งไว้สักพักอาการก็จะบรรเทาลง
หลังจากนั้นก็ลงเล่นน้ำต่อได้
หรือจะใช้น้ำส้มสายชูราดในบริเวณที่โดนแมงกะพรุนก็ได้
|
เม่นทะเล มักจะอาศัยอยู่บริเวณพื้นทะเลตามแนวปะการังและเกาะตามก้อนหินในน้ำ
ผู้ที่จะไปสัมผัสกับมันเข้าคือพวกที่เหยียบลงไปที่พื้น
ลักษณะเม่นทะเลดังในภาพ
มีลักษณะกลมมีหนามยาวรอบตัว
ที่หนามจะมีสารพิษบางอย่างทำให้ผู้ที่ตำมีอาการเจ็บปวด
การว่ายน้ำเล่นบริเวณผิวน้ำหรือการดำผิวน้ำจะไม่โดนเม่นทะเลตำเพราะเม่นทะเลอยู่ที่พื้น
ถ้าหากเราเหยียบลงไปที่พื้นเราอาจจะเหยียบปะการังพังแล้วยังมีโอกาสโดนเม่นทะเลตำเอาได้
วิธีการหลีกเลี่ยงคืออย่าลอยตัวเข้าไปในเขตน้ำตื้นเพราะอาจจะโดนแม่นทะเลตำ
อย่าเหยียบบนพื้น เพราะนอกจากจะโดนเม่นตำแล้วยังอาจจะทำให้ปะการังเสียหายด้วย
วิธีการรักษา
ให้ใช้ก้อนหินหรือตะกั่วที่ใช้ดำน้ำทุบบริเวณที่โดนตำให้หนามเม่นแตกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย
หลังจากนั้นรอเวลา
เวลาจะช่วยรักษาให้หายเจ็บได้
โดนตำแล้วต้องทน
|
ดอกไม้ทะเล สวยงามแต่มีพิษ
ดอกไม้ทะเลจัดเป็นสัตว์อยู่ในกลุ่มย่อยเดียวกับปะการังแข็ง
แต่พวกนี้ไม่สร้างโครงหินปูน
บริเวณหนวดมีเซลล์เข็มพิษถ้าเราไปสัมผัสก็จะโดนเข็มพิษทิ่มแทงพิษจะทำให้ปวดแสบปวดร้อน
ความรุนแรงขึ้นอยู่กับชนิดของดอกไม้ทะเล
จู่ๆ
คนเราจะไปจับดอกไม้ทะเลเล่นก็คงไม่ใช่
แต่ที่อาจจะไปโดนเข็มพิษของมันเนื่องจากไปไล่จัลปลาการ์ตูนในการดอกไม้ทะเล
ทั้งนี้เพราะปลาการ์ตูนกับกอดอกไม้ทะเลพบเห็นได้แม้ในระดับน้ำตื้นเพียงแค่เข่าของเรา
ดังนั้นจึงอย่าไปไล่จับปลา
หรือแย่ปลาการ์ตูน
การป้องกัน
ไม่จับเล่นเพราะเห็นว่าสวยงาม
ดูแต่ตาจะปลอดภัย
การรักษา ใช้น้ำส้มสายชูราดบริเวณที่โดนพิษ
|
ปลาสิงโต
อาศัยอยู่บริเวณแนวปะการัง
พบได้แม้ในระดับน้ำตื้น
อย่างตัวนี้พบที่ระดับน้ำประมาณ
1. 5 เมตร เป็นปลาที่มีรูปร่างและสีสันสวยงามมาก
ปลาชนิดนี้จะว่ายช้ามากเพราะว่าเขาไม่กลัวอะไรเนื่องจากมีพิษรอบตัว
เนื่องจากเป็นปลาสวยและเชื่องช้าจึงอาจจะมีใครรู้เท่าไม่ถึงกาลไปไล่จับมันเล่นก็จะถูกเข็มพิษทิ่มแทง
บาดแผลที่โดนเข็มพิษจะปวดมากเหมือนโดนปลาดุกตำ
การรักษา
ไม่รู้รักษายังไง
แต่ควรทานยาแก้ปวดเพื่อให้บรรเทาอาการปวด
แล้วปล่อยให้เวลาเป็นตัวรักษา
การป้องกัน เห็นปลาสวยๆ
อย่าเข้าใกล้หรือไปจับเล่น
เท่านั้นเอง
|
แตนทะเล
เป็นสัตว์ขนาดเล็กล่องลอยอยู่ในน้ำ
บางครั้งก็มีบางครั้งก็ไม่มี
ส่วนใหญ่มักจะพบในการลงดำน้ำในช่วงเช้ามากกว่าการลงดำในช่วงบ่าย
ลักษณะเป็นสัตว์ทะเลขนาดเล็กจิ๋ว
โปรดสังเกตจากในภาพ
เห็นหมั๊ยครับ แตนทะเลจัดอยู่ในจำพวกแพงตอนขนาดเล็กมักจะอยู่รวมกันเป็นกลุ่มๆ
มองดูคล้ายว่าในน้ำมีตะกอน
สิ่งที่เราสังเกตได้คือว่าน้ำจะขุ่นกว่าปกติเหมือนมีเศษตะกอนลอยอยู่ในน้ำ
ซึ่งเราก็จะแยกไม่ออกว่านั่นคือตะกอนหรือแตนทะเล
เราจะรู้ก็ต่อเมื่อโดนมันต่อย
อาการเมื่อโดนแตนทะเลต่อยจะรู้สึกเจ็บจี๊ดๆ
เหมือนโดนเข็มขนาดเล็กจิ๊ม
แต่เจ็บไม่เท่าไรพอทนได้
การรักษา
ส่วนใหญ่ไม่แพ้
เมื่อโดนต่อยก็จะรู้สึกเจ็บเฉยๆ
แต่สำหรับคนที่แพ้จะมีอาการเป็นจุดแดงและบวมเล็กน้อย
แก้ไขด้วยการทานยาแก้แพ้
แต่สำหรับผู้ที่มีอาการแพ้มากจะต้องไปพบแพทย์ฉีดยาสักเข็มก็หาย
ที่สำคัญเมื่อโดนแตนต่อยแล้วเกิดตุ่มแดงและคันห้ามเกา
ปล่อยไว้อย่างนั้นถึงแม้จะคันก็ทนเอาหน่อย
เมื่อทานยาหรือฉีดยาแล้วแผลยุบหายไปก็จะไม่มีแผลเป็น
ไม่เสียโฉม
การป้องกัน
ไม่มีวิธีป้องกัน
หากลงน้ำแล้วก็ต่อยถ้าทนได้ก็ดำต่อไป
ถ้าทนไม่ไหวก็ขึ้นมารอบนเรือ
ที่เขียนมาก็เพื่อจะบอกให้รู้ว่าเวลาลงดำน้ำแล้วรู้สึกเจ็บจี๊ดๆ
นั่นน่ะกำลังโดนแตนทะเลต่อย
เดี๋ยวจะสงสัยว่าเป็นอะไรทำไมถึงเจ็บ
|
ปลาฉลาม
เคยเป็นสิ่งที่คนลงทะเลหวาดกลัวที่สุด
แต่ทุกวันนี้ไม่ต้องกลัวแล้ว
ฉลามหายาก
เวลาดำน้ำมีแต่คนถามถึงฉลามว่ามีหมั๊ย
อยากดู
แต่ก็หาดูยากเต็มที
แถวเกาะสต๊อก
ที่หมู่เกาะสุรินทร์พอมีให้เห็นบ้างแต่ตัวเล็ก
ที่เกาะเต่ามีเยอะหาดูง่ายแต่ก็มีขนาดเล็ก
ถ้าจะดูขฉลามขนาดใหญ่เท่าคนต้องไปดำน้ำลึกจึงจะเห็น
ดังนั้นจึงไม่ต้องกลัวฉลาม
ต้องเรียกฉลามว่า "
สัตว์เคยอันตราย
"
ตัวนี้ถ่ายที่อ่าวหินวง
เกาะเต่า ฝูงนี้มี
5 ตัว
|
หอยมือเสือ
เป็นสิ่งที่สวยงามในทะเล
เนื้อเยื่อบริเวณปากมีสีสันสวยงามเหมือนดอกไม้
สีม่วง สีเขียว สีฟ้า
สารพัดสี
เราสามารถพบหอยมือเสือได้แม้ในระดับน้ำตื้นๆ
อันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นก็คือการเหยียบเข้าไปในปากจะโดยฝาหอยหนีบ
แต่โอกาสที่จะเกิดขึ้นเป็นไปได้ยากมากเพราะหอยจะคอยระวังตัว
หากเราเข้าใกล้เขาก็จะหุบปาก
อย่าไปแย่เล่น
หรือเผลอไปเหยียบก็ปลอดภัยแล้ว
|
ปะการัง
พิษของปะการังมีสองแบบ
คือ
1.
พิษจากเมือกของปะการัง
ปะการังหลายชนิดมีเมือกที่เป็นพิษ
เมื่อสัมผัสแล้วจะมีอาการปวดแสบปวดร้อนไปหลายวัน
บางชนิดมีพิษที่รุนแรงเช่นปะการังไฟ
เมื่อโดนแล้วปวดแสบปวดร้อนและเป็นรอยไหม้เป็นแผลเป็น
ดังนั้นเมื่อดำน้ำในเขตน้ำตื้นจงหลีกเลี่ยงที่จะไปสัมผัสกับปะการังต่างๆ
ไม่ว่าจะเป็นปะการังชนิดใดๆ
ก็ตาม
เพราะหลายชนิดที่มีพิษ
ยากที่จะจดจำ
จำง่ายๆ
ว่าอย่าไปสัมผัสไม่ว่าชนิดใดก็ตาม
2.
พิษจากการบาดเจ็บจากการขีดข่วนหรือโดนคลื่นซัดเข้าไปกระแทกเข้ากับปะการัง
ในช่วงที่น้ำลงจะทำให้แนวปะการังอยู่ในระดับน้ำตื้นมากๆ
บางจุดปะการังโผล่พ้นน้ำในช่วงที่น้ำลงต่ำสุด
อาจทำให้การดำน้ำในเขตปะการังน้ำตื้นเกิดอันตรายเมื่อเราเซไปกระแทกกับปะการัง
หรือโดนคลื่นชัดเข้าไปกระแทกกับปะการัง
ผิวของปะการังมักจะมีผิวหยาบขุรขระและแหลมคม
หากไปกระแทกเข้าก็จะเกิดแผลในบริการที่กระแทก
นักท่องเที่ยวก็เสียโฉม
แนวปะการังก็อาจจะหักเสียหาย
สรุปว่าเสียกันทั้งสองฝ่าย
แต่ปะการังมันไม่เจ็บแต่คนซิเจ็บ
ถ้ากลัวเจ็บก็ต้องระมัดระวังโดยการไม่ดำเข้าไปในเขตน้ำตื้นจนเกินไป |
หอยนางรม
เป็นพิษภัยที่คนมองข้าม
หอยนางรมจะเกาะอยู่ตามโขดหินในระดับผิวน้ำตั้งแต่ระดับน้ำสูงจนถึงระดับน้ำต่ำ
ในการครั้งในที่ดำน้ำนักท่องเที่ยวอาจจะพยายามยืนบนก้อนหินใต้น้ำที่มองไม่เห็น
อาจจะเป็นในลักษณะของการเหยียบแบบสะเปะสะปะ
หากก้อนหินมีหอยนางรมเกาะอยู่ก็จะโดนบาดเหวอะหวะ
บางท่านหัวใสใส่รองเท้าขณะดำน้ำ
แต่ไม่ใช่ว่าจะรอดเพราะอันตรายอีกอย่างคือการที่โดนคลื่นซัดเข้าไปกระแทกกับโขดหินที่เต็มไปด้วยหอยนางรม
ปัญหานี้เกิดจากการก้มหน้าดำน้ำแบบไม่ดูตาม้าตาเรือ
หมายถึงมองดูแต่ที่พื้นอย่างเดียวจนกระทั่งโดนคลื่นซัดเข้าใกล้โขดหินแล้วก็ยังไม่รู้เรื่อง
ถ้าโดนคลื่นกระแทกไปโดนกับโขดหินที่มีหอยนางรมล่ะก็รับรองได้ว่าบาดเจ็บเสียโฉมแน่นอน |
เพรียงทะเล
ปัญหาเดียวกับหอยนางรม
แต่มักจะเกาะติดอยู่กับโขดหินในระดับผิวน้ำ
ปัญหามักเกิดจากการเดินเที่ยวตามโขดหินชายทะเล
หากจะเดินเล่นตามโขดหินต้องใช้ความระมัดระวัง
ถึงแม้ใส่รองเท้าจะป้องกันได้
แต่ว่าโขดหินมักจะลื่น
หากเสียหลักลื่นล้มอาจจะล้มไปกระแทกกับโขดหินที่มีเพรียง
หรือหอยนางรมเกาะก็จะทำให้ได้รับความบาดเจ็บ |
งูทะเล
เวลาไปเที่ยวทะเลอาจจะเจองูทะเลอยู่สองประเภท
1.
งูทะเลที่อยู่ตามแนวปะการัง
มักมีลายปล้องขาว-ดำ
งูเหล่านี้ไม่น่ากลัวเพราะงูพวกนี้จะกลัวคน
เพียงแค่ได้เห็นคนก็ว่ายน้ำหนีไปแล้ว
ดังนั้นจึงไม่ต้องกลัว แต่ถ้ามันกัดก็ไม่ต้องกลัวเพราะเป็นงูที่ไม่มีพิษ
หากโดนกัดก็เพียงแค่ฉีดยากันบาดทะยัก
เท่านั้นเอง งูทะเลที่มีพิษก็มีแต่จะอยู่ในเขตน้ำลึกซึ่งนักท่องเที่ยวไม่มีโอกาสจะเจอ
ดังนั้นจึงสบายใจได้
สรุปว่างูทะเลในแนวปะการัง
ไม่มีพิษภัยเพียงแค่ทำให้ตกใจกลัวเท่านั้นเอง
2.
งูที่อยู่บนหัวคน
งูประเภทมีมากกว่างูที่อยู่ตามแนวปะการัง
เป็นงูที่ไม่มีพิษภัย
เพียงแต่ทำให้เกิดความรำคาญเท่านั้นเอง
แก้ไขง่ายๆ
ด้วยการวางเฉย
เดี๋ยวงูมันก็ไปเอง
|
|
|
|